กลุ่มอาการ

โรคผมร่วง

โรคผมร่วงคืออะไร? ปลูกผม DHI ช่วยปลูกผมถาวรได้จริงไหม?

ผมร่วงกรรมพันธุ์ผู้ชาย

โรคผมร่วงคืออะไร? ปลูกผม DHI ช่วยปลูกผมถาวรได้จริงไหม?

แม้ใครหลายคนจะมองว่า “โรคผมร่วง” เป็นเพียงปัญหาความงามเล็กน้อย หรือเป็นเรื่องเฉพาะของผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยเด็ก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่สภาพแวดล้อม ความเครียด และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันกลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้เกิดปัญหาเส้นผมได้ง่ายขึ้น โรคผมร่วงบางประเภทอาจมีลักษณะเพียงชั่วคราว แต่ในบางกรณี เช่น ภาวะผมร่วงเป็นหย่อม หรือการร่วงจากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ อาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ป่วย นอกจากนี้ หากไม่รีบหาสาเหตุและเข้ารับการรักษา เช่น การปลูกผม DHI หรือการปลูกผมถาวรอย่างเหมาะสมตั้งแต่ระยะแรก ปัญหาผมร่วงที่ดูเหมือนเล็กน้อยอาจพัฒนาไปสู่การสูญเสียเส้นผมอย่างถาวร ซึ่งยากต่อการฟื้นฟูในภายหลัง ดังนั้น การตระหนักถึงสัญญาณของโรคและเข้าใจวิธีรับมืออย่างถูกต้อง จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ เลย

ในปัจจุบัน การปลูกผม แบบ DHI ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เผชิญกับปัญหา “โรคผมร่วง” และต้องการการ “ปลูกผมแบบถาวร” ที่ให้ผลลัพธ์สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ เทคนิค DHI หรือ Direct Hair Implantation เป็นนวัตกรรมที่เน้นการย้ายรากผมแบบเฉพาะเจาะจง โดยไม่ต้องเปิดแผลหรือเย็บ ทำให้ลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็นและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นคืนความมั่นใจอย่างรวดเร็วและมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่อยากหยุดกิจกรรมประจำวัน สิ่งที่ทำให้การปลูกผมด้วยวิธี DHI แตกต่างจากวิธีดั้งเดิม คือความแม่นยำในการปักรากผมที่ช่วยให้เส้นผมใหม่มีลักษณะเป็นธรรมชาติ และสามารถกำหนดทิศทางการงอกของเส้นผมได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ไม่เพียงช่วยให้เส้นผมหนาขึ้นเท่านั้น แต่ยังคืนความสมดุลให้กับกรอบหน้าและบุคลิกภาพโดยรวมอีกด้วย หากคุณกำลังเผชิญกับอาการผมร่วง ไม่ว่าจะจากกรรมพันธุ์ ความเครียด หรือโรคผิวหนังบางชนิด การรู้จักเทคนิคนี้ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการหาวิธีรักษาให้ตรงจุดมากขึ้น

ปลูกผม DHI ทางเลือกแก้โรคผมร่วงเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับภาวะ โรคผมร่วง ไม่ว่าจะเกิดจากพันธุกรรม ฮอร์โมน ความเครียด หรือปัจจัยอื่น ๆ การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้การฟื้นฟูเส้นผมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน “ปลูกผม DHI” หรือ Direct Hair Implantation จึงกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบ ปลูกผมถาวร ที่ดูเป็นธรรมชาติ สวยงาม และคงอยู่ได้ในระยะยาว

เทคนิค DHI มีความโดดเด่นตรงที่ใช้หัวเข็มขนาดเล็กพิเศษที่เรียกว่า DHI Implanter ในการย้ายรากผมโดยตรงไปยังบริเวณที่ต้องการ โดยไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัดหรือเย็บแผล จึงช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ลดโอกาสติดเชื้อ และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังทำ นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดทิศทางและความหนาแน่นของแนวผมใหม่ได้อย่างละเอียด ทำให้ผลลัพธ์ดูเนียนไปกับเส้นผมเดิม และยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน สำหรับใครที่อยากเรียกคืนความมั่นใจในแบบที่ยั่งยืนและปลอดภัย DHI คือคำตอบที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง

โรคผมร่วงคืออะไร?

โรคผมร่วง” คือคำที่ใช้อธิบายภาวะการสูญเสียเส้นผมที่มากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในหลายลักษณะ ตั้งแต่ผมค่อย ๆ บางลงจนมองเห็นหนังศีรษะชัดเจน ผมหลุดร่วงเป็นหย่อม ๆ หรือในบางกรณีอาจร่วงทั้งศีรษะจนกลายเป็นศีรษะล้านถาวร ความผิดปกตินี้สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย และอาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน ความเครียด โรคทางผิวหนัง หรือระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ โดยโรคผมร่วงสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

Non-Scarring Alopecia

ภาวะผมร่วงที่ รากผมยังคงอยู่และไม่ถูกทำลาย ส่งผลให้สามารถกระตุ้นให้ผมงอกขึ้นใหม่ได้ เช่น

  • ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata)
  • ผมร่วงจากความเครียด ฮอร์โมน หรือการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
  • \ผมร่วงชั่วคราวจากยาหรือการเจ็บป่วยบางชนิด
Scarring Alopecia

ภาวะผมร่วงที่ รากผมถูกทำลายอย่างถาวร โดยมักเกิดจาก

  • โรคผิวหนังบางประเภท เช่น Discoid Lupus หรือ Lichen Planopilaris
  • การติดเชื้อเชื้อราในหนังศีรษะหรือแผลเรื้อรัง
  • การบาดเจ็บหรือแผลเป็นที่หนังศีรษะ ซึ่งภาวะนี้ส่งผลให้เส้นผมไม่สามารถงอกกลับมาได้อีกและจำเป็นต้องพิจารณาการรักษาแบบถาวร เช่น การปลูกผ
โรคผมร่วงเกิดจากอะไร?

โรคผมร่วงเกิดจากอะไร?

สาเหตุของ “โรคผมร่วง” สามารถเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งที่มาจากภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางฮอร์โมนหรือระบบภูมิคุ้มกัน และจากภายนอก เช่น ความเครียดหรือการใช้ยาบางชนิด โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

  • พันธุกรรม (Genetic factors)  เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในกรณีของศีรษะล้านแบบถาวร เช่น
    • Androgenetic Alopecia หรือ Male/Female Pattern Baldness ซึ่งเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากครอบครัวและมีผลกระทบต่อการตอบสนองของรากผมต่อฮอร์โมนเพศชาย (DHT)
    • มักเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากผมบางบริเวณกลางศีรษะหรือแนวไรผมร่น
  • ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (Autoimmune disorders) เช่นใน โรค Alopecia Areata ที่ร่างกายเข้าใจผิดว่ารากผมเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงโจมตีจนทำให้ผมหลุดร่วงเป็นหย่อม ๆ
    • พบได้ในทุกเพศทุกวัย และอาจสัมพันธ์กับโรคอื่น ๆ เช่น โรคไทรอยด์ หรือโรคเบาหวานชนิดที่ 1
  • ฮอร์โมนผิดปกติ (Hormonal imbalance)  ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลสามารถส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น
    • ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงหรือต่ำ
    • การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วง หลังคลอด, วัยทอง, หรือการหยุดใช้ยาคุมกำเนิด
  • ความเครียดรุนแรง (Severe stress) ความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น การสูญเสียคนรัก อุบัติเหตุ การผ่าตัดใหญ่ หรือโรคเรื้อรัง อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะผมร่วงแบบเฉียบพลัน
    • ภาวะนี้เรียกว่า Telogen Effluvium ซึ่งเป็นการที่เส้นผมเข้าสู่ระยะหลุดร่วงพร้อมกันจำนวนมาก
  • ผลข้างเคียงจากยาและการรักษาบางประเภท เช่น
    • เคมีบำบัด (Chemotherapy)
    • ยากดภูมิคุ้มกัน ยาคุมกำเนิด ยาต้านซึมเศร้า ยาโรคหัวใจบางชนิด
    • การฉายรังสีที่บริเวณศีรษะ
  • การติดเชื้อและโรคทางผิวหนัง (Infections and skin diseases)
    • เชื้อราที่หนังศีรษะ (Tinea capitis) ซึ่งทำให้เกิดผมร่วงเป็นหย่อมที่มีสะเก็ด
    • ซิฟิลิส, SLE (Systemic Lupus Erythematosus) และ ด่างขาว (Vitiligo) ก็เป็นอีกสาเหตุที่พบได้

โรคผมร่วงในผู้หญิง ต่างจากผู้ชายไหม?

แม้ “โรคผมร่วง” ในผู้หญิงและผู้ชายจะมีปัจจัยร่วมบางประการ เช่น พันธุกรรม ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ แต่ในแง่ของลักษณะการร่วงของเส้นผม รวมถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์และจิตใจ กลับมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

ผู้ชาย
  • มักเริ่มผมร่วงจากบริเวณไรผมด้านหน้าหรือกลางกระหม่อม
  • ลักษณะการร่วงจะชัดเจน เป็นรูปตัว M หรือ U จนกลายเป็นศีรษะล้านบางส่วนหรือทั้งหมด
  • ปัญหามักเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและระดับฮอร์โมน DHT ที่สูงเกินไป
ผู้หญิง
  • มักพบลักษณะผมบางทั่วศีรษะ หรือมีแนวผมร่นเป็นลักษณะกระจาย โดยไม่ร่วงเฉพาะจุด
  • แนวไรผมหน้าผากมักยังคงอยู่ แต่บริเวณกลางศีรษะจะเริ่มบางก่อน อาจมีสาเหตุร่วมจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น
  • หลังคลอดบุตร เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
  • ภาวะฮอร์โมนแปรปรวนอื่น ๆ เช่น PCOS หรือปัญหาต่อมไทรอยด์
กรณีพิเศษในผู้หญิง
  • Traction Alopecia หรือภาวะผมร่วงจากการดึงรั้ง เช่น การมัดผมแน่น การถักเปียติดหนังศีรษะ หรือใช้ความร้อนบ่อย
  • หากทำพฤติกรรมนี้เป็นเวลานาน โดยไม่ปรับเปลี่ยน อาจนำไปสู่รากผมถูกทำลายถาวรและผมไม่สามารถงอกใหม่ได้อีก

นอกจากนี้ ผู้หญิงยังมีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางจิตใจมากกว่าผู้ชายจากการสูญเสียเส้นผม เพราะเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ความงามและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การวินิจฉัยและรักษาอย่างเข้าใจลักษณะเฉพาะของเพศหญิง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ รักษาได้ไหม?

แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่สามารถยับยั้งยีนกรรมพันธุ์ได้โดยตรง แต่เราสามารถชะลอการร่วงและกระตุ้นให้ผมขึ้นใหม่ได้ด้วยวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น

การใช้ยา Minoxidil หรือ Finasteride

การรักษาด้วย PRP หรือ GFC

การปลูกผมถาวร โดยเฉพาะวิธีปลูกผม DHI

What are the Treatment Options for Hair Loss?

วิธีการรักษาโรคผมร่วงมีอะไรบ้าง?

การรักษาจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุและความรุนแรงของโรค ตัวอย่างแนวทางการรักษาที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • ฉีดสเตียรอยด์ เพื่อกดการอักเสบของรากผมในกรณี Alopecia Areata
  • ยา Minoxidil กระตุ้นให้ผมงอกใหม่
  • JAK Inhibitors ใช้ในเคสที่รุนแรงจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ
  • ภูมิคุ้มกันบำบัดเฉพาะจุด (Topical Immunotherapy)
  • PRP หรือ Platelet-Rich Plasma ใช้พลาสมาเข้มข้นกระตุ้นการงอกของเส้นผม
  • ปลูกผม DHI ทางเลือกถาวรสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมแนวผมอย่างเป็นธรรมชาติและไม่มีแผล
  •  

สักผมช่วยได้ไหม?

การสักผมหรือ Micropigmentation ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะด้านความสวยงามเท่านั้น ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดผมใหม่ แต่เหมาะสำหรับ

ทั้งนี้ DHI Thailand มีบริการสักผมโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ผู้ที่มีผมบางบริเวณกว้าง

ต้องการเติมเงาให้แนวผมดูเต็ม

ไม่ต้องการผ่าตัดหรือปลูกผมจริง

ทำไมต้องรักษากับ DHI Thailand?

การรักษาโรคผมร่วงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์และความเข้าใจเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน DHI Thailand จึงเน้นการดูแลแบบเฉพาะตัว (Personalized Care) ดังนี้

  • ใช้เทคนิค DHI ที่แม่นยำ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม ดูแลเคสต่อเคส
  • อุปกรณ์และเทคโนโลยีได้มาตรฐานสากล
  • มีบริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิเคราะห์เส้นผม ไปจนถึงการดูแลหลังทำ
  •  

ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับผมร่วงแบบไหน DHI พร้อมเดินเคียงข้างคุณอย่างมืออาชีพ หากคุณกำลังมองหาทางออกที่ “ถาวรและปลอดภัย” สำหรับปัญหา โรคผมร่วง ไม่ว่าจะเป็นผมบางเฉพาะจุด ผมร่วงจากฮอร์โมน หรือภาวะภูมิคุ้มกันทำลายรากผมของตัวเอง การเลือกแนวทางที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน และยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติในระยะยาว ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในจุดนี้ “ปลูกผม DHI” ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในฐานะทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการ ปลูกผมถาวร อย่างได้ผลจริง ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะทางที่ช่วยย้ายรากผมได้อย่างแม่นยำ ไม่ทิ้งรอยแผล พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน DHI Thailand พร้อมช่วยคุณฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและบุคลิกภาพให้กลับมาอย่างมั่นใจอีกครั้ง ปรึกษาเราได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อวางแผนการรักษาให้ตรงจุด และเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้จริงในแบบของคุณ

รีวิวลูกค้า

บริการอื่นๆ

บริการดูแลเส้นผมแบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูเส้นผม การปลูกผม การสักหนังศีรษะ และการรักษาผมร่วงแบบครบวงจรสำหรับผู้ชายและผู้หญิง

ปลูกหนวด เพิ่มเสน่ห์เสริมความมั่นใจ ด้วยเทคนิคปลูกหนวด เครา ที่ได้ผลจริง ปลูกหนวด ธรรมชาติ

คืนความแข็งแรงด้วยทรีตเมนต์กระตุ้นรากผม GFC นวัตกรรมใหม่ เพิ่มโอกาสฟื้นฟูเส้นผมได้มากกว่าปกติ 2 เท่า

ปลูกคิ้ว เพิ่มความมั่นใจได้อย่างถาวร ปรับรูปหน้าให้โดดเด่นด้วยเทคนิคปลูกคิ้ว ที่ดูเป็นธรรมชาติ เสริมเสน่ห์ด้วยการปลูกคิ้วธรรมชาติ