รวมเทคนิคการปลูกผมถาวรในปี 2025 เทคนิคน่าสนใจมาดูกันเลย

รวมเทคนิคการปลูกผมถาวรในปี 202

ในปี 2025 ปีที่ผู้คนกำลังมองหาทางเลือกในการเสริมความมั่นใจและสุขภาพที่ดีให้กับตัวเองทำให้เทรนด์เรื่องของการดูแลสุขภาพและร่างกายกลายเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับความเงางามของเส้นผมที่มีผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตของทุกคน ที่การมีผมที่ดก ดำ ยาวถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจและช่วยเสริมความมั่นใจให้กับการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้นได้   

อีกทั้งในปี 2025 วิธีปลูกผมถาวรได้พัฒนาไปไกลกว่าที่เคย ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี ความแม่นยำ และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น จึงทำให้ในปัจจุบันมีเทคนิคปลูกผมหลัก ๆ 3 แบบที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ได้แก่ FUT, FUE และ DHI ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป และมีวิธีการทำที่แตกต่างกัน

ในบทความนี้เราจึงได้รวมเทคนิคการปลูกผมถาวรในปี 2025 มาให้คุณได้ทำความเข้าใจ และมาดูกันว่าเทคนิคไหนน่าสนใจในการเลือกใช้บริการปลูกผม ดังนี้

FUT (Follicular Unit Transplantation)

1. FUT (Follicular Unit Transplantation) เทคนิคดั้งเดิมที่ยังคงมีประสิทธิภาพ

FUT หรือการปลูกผมแบบแถบ เป็นเทคนิคที่แพทย์จะทำการตัดชิ้นหนังศีรษะจากบริเวณท้ายทอย (ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากผมแข็งแรง) แล้วนำชิ้นเนื้อไปแยกเป็นกราฟต์ (Graft) รากผมทีละหน่วย จากนั้นจึงนำรากผมไปปลูกบริเวณที่ผมบางหรือล้าน

ข้อดี

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนมากในครั้งเดียว
  • ราคาค่อนข้างประหยัดกว่าบางเทคนิค
  • รากผมแข็งแรงเพราะได้จากแถบหนังศีรษะโดยตรง

ข้อควรระวัง

  • อาจทิ้งรอยแผลเป็นขนาดยาวไว้ด้านหลังศีรษะ
  • ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการปลูกผมแบบอื่น


ใครควรเลือก FUT

  • ผู้ที่มีบริเวณผมบางกว้าง ต้องการกราฟต์จำนวนมากในครั้งเดียว
  • ผู้ที่ไม่ได้เน้นไว้ผมสั้นมาก สามารถปกปิดรอยแผลเป็นแนวยาวได้
  • ผู้ที่ต้องการต้นทุนต่อกราฟต์ที่ประหยัด

 อีกทั้ง FUT ยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ปลูกผมจำนวนมาก แม้จะแลกมาด้วยแผลเป็นแนวยาวและระยะพักฟื้นที่นานขึ้น แต่ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าและประสิทธิภาพในการให้กราฟต์จำนวนมาก FUT จึงยังครองใจผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมให้หนาแน่นในครั้งเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

FUE (Follicular Unit Extraction)

2. FUE (Follicular Unit Extraction) ปลูกผมไร้รอยแผลเป็นขนาดใหญ่

FUE เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นจาก FUT โดยเปลี่ยนวิธีการเก็บรากผมจาก “การตัด” มาเป็น “การเจาะ” ด้วยเครื่องมือขนาดเล็กพิเศษ รากผมจะถูกดึงออกมาแบบทีละกออย่างละเอียด แล้วนำไปปลูกในจุดที่ต้องการ

ข้อดี

  • ไม่ทิ้งแผลเป็นยาวแบบ FUT
  • ระยะเวลาฟื้นตัวสั้นกว่ามาก
  • เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแถบหนังศีรษะ

ข้อควรระวัง

  • ใช้เวลาปลูกนาน เพราะต้องทำแบบละเอียดทีละกราฟต์
  • อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปลูกผมจำนวนมากในครั้งเดียว

ใครควรเลือก FUE

  • ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงรอยแผลเป็นใหญ่ อยากไว้ผมสั้นได้โดยไม่เห็นรอยเจาะจุดเล็กๆ
  • ผู้ที่มีพื้นที่ผมบางไม่กว้างมาก (ประมาณ ≤3,000–4,000 กราฟต์)
  • ผู้ที่ต้องการระยะพักฟื้นสั้น อยากกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว (ภายใน 5–7 วัน)
  • ผู้ที่ยอมรับต้นทุนต่อกราฟต์สูงกว่า เพื่อแลกกับความสบายใจเรื่องแผลเป็นและความรวดเร็วในการฟื้นตัว

FUE เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงรอยแผลเป็นใหญ่ อยากไว้ผมสั้นได้โดยไม่เห็นรอยเจาะจุดเล็ก ๆ และผู้ที่มีพื้นที่ผมบางไม่กว้างมาก (ประมาณไม่เกิน 3,000–4,000 กราฟต์) รวมถึงคนที่ต้องการระยะพักฟื้นสั้น เพื่อกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว แม้ว่าต้นทุนต่อกราฟต์จะสูงกว่าเล็กน้อยก็ตาม

DHI (Direct Hair Implantation)

3. DHI (Direct Hair Implantation) เทคโนโลยีล่าสุดที่แม่นยำและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

DHI ถือเป็นเทคนิคปลูกผมที่ล้ำสมัยที่สุดในปี 2025 โดยใช้เครื่องมือเฉพาะที่เรียกว่า DHI Implanter Pen ซึ่งสามารถ “เจาะและฝัง” กราฟต์รากผมได้ภายในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องเปิดแผลล่วงหน้าเหมือน FUE หรือ FUT

ข้อดี

  • ความแม่นยำสูงมาก ควบคุมทิศทาง มุม และความลึกของเส้นผมได้อย่างละเอียด
  • ไม่ต้องโกนผมทั้งศีรษะ (เหมาะกับผู้หญิงมาก)
  • ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย และแทบไม่มีรอยแผลเป็น
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ข้อควรระวัง

  • ราคาค่อนข้างสูงกว่าเทคนิคอื่น
  • ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น

ใครควรเลือก DHI

  • คนที่ต้องการความหนาแน่นสูงสุด ของเส้นผมหลังปลูก เพราะ DHI ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความหนาต่อพื้นที่มากขึ้น
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ 100% โดยไม่มีรอยต่อหรือแนวผมที่ดูปลูกซ้ำ ด้วยการควบคุมมุมและทิศทางของแต่ละกราฟต์อย่างแม่นยำ 
  • คนที่กลัวแผลผ่าตัดใหญ่ หรือไม่อยากมีรอยแผลเป็น เพราะ DHI ใช้ Implanter Pen ฝังรากผมทันทีโดยไม่ต้องเปิดแผลล่วงหน้า
  • ผู้ที่ต้องการระยะพักฟื้นสั้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็ว เพราะแทบไม่มีบาดแผลให้ดูแลนาน 
  • ผู้ที่เคยปลูกผมด้วยเทคนิคอื่นแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ อยากได้ความแม่นยำและประสิทธิภาพมากขึ้นในการจัดเรียงกราฟต์ผมแต่ละเส้น 

ผู้ที่ควรเลือก DHI คือคนที่ต้องการผลลัพธ์เส้นผมดูเป็นธรรมชาติสูงสุด รอยแผลเล็กจนแทบมองไม่เห็น และอยากกำหนดทิศทาง ความลึก และมุมการงอกของเส้นผมได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งต้องการระยะพักฟื้นสั้นเพียง 2–3 วัน เพื่อกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที แม้ว่าต้นทุนต่อกราฟต์อาจสูงกว่าเทคนิคอื่นบ้าง แต่แลกมาด้วยความมั่นใจเรื่องไร้แผลเป็นและอัตราการรอดกราฟต์ที่มากกว่า

ปลูกผมถาวร 2025

ปลูกผมถาวร 2025 ทางเลือกใหม่ของคนรักผม

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ปี 2025 คือปีที่คุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ด้วยเทคโนโลยีการปลูกผมที่ทั้ง ปลอดภัย เห็นผลจริง และเป็นธรรมชาติ มากกว่าที่เคย โดยเฉพาะเทคนิค DHI ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมอันดับหนึ่งในตอนนี้

สนใจปลูกผม

สนใจปลูกผม? เลือกบริการที่เชื่อถือได้

ที่ DHI Thailand เราคือคลินิกปลูกผมที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้จาก DHI Global (ลิขสิทธิ์แท้ 100%) มั่นใจได้ในมาตรฐานระดับสากล พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการอบรมจากสถาบัน DHI Hair Restoration Academy of London

  • ปลูกผมผู้ชาย ปรับรูปหน้า สร้างความมั่นใจ
  • ปลูกผมผู้หญิง เพิ่มเสน่ห์ให้เส้นผม ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมประเมินเบื้องต้นโดยผู้เชี่ยวชาญ

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงความมั่นใจที่คุณจะไม่เสียใจ เพราะผมที่ขึ้นใหม่และดกดำมากกว่าเดิม