กรุงเทพฯเอง ถือเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในด้านการปลูกผม เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีทันสมัย และค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ไม่แปลกที่ผู้สนใจจำนวนมากจะค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยคำค้นหาอย่าง “hair clinic Bangkok (คลินิกปลูกผม กรุงเทพ)” หรือ “hair transplant Thailand cost (ปลูกผมในไทย ราคา)” เพื่อเปรียบเทียบราคาและบริการของคลินิกต่าง ๆ และคำถามสำคัญคือ ปลูกผม ราคาเท่าไหร่ในกรุงเทพฯ หรือปลูกผมที่ไหนดี? บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลจาก DHI Thailand และอธิบายวิธีการปลูกผมเทคนิค DHI อย่างครบถ้วน
ปัญหาผมร่วงและผมบางเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญเมื่ออายุมากขึ้น หรือได้รับปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด หรือการดูแลเส้นผมที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพของคนจำนวนมากอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายคนจึงเริ่มมองหาทางแก้ไขอย่างการปลูกผมถาวร โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีคลินิกปลูกผมที่ได้มาตรฐานอยู่หลายแห่ง รวมถึง DHI Thailand ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก DHI Global Medical Group
ปลูกผม ราคาเท่าไหร่ และปลูกผมที่ไหนดีในกรุงเทพ? คำตอบคือ “DHI Thailand”
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนที่ค้นหาข้อมูลอยู่ก็คงมีความสงสัยว่า ถ้าจะปลูกผม ราคาเท่าไหร่ ที่ถือว่าเป็นมาตรฐาน และถ้าอยู่ในไทย จะไปปลูกผมที่ไหนดีในกรุงเทพ แน่นอนว่าคำตอบที่เราจะแนะนำนั้นก็คงหนีไม่พ้นคลินิก “DHI Thailand” ที่มีบริการปลูกผมดี ๆ อย่าง DHI หรือ Direct Hair Implantation นั่นเอง และถ้าสงสัยเพิ่มเติมว่า ปลูกผมแบบ DHI คืออะไร ก็ตามมาดูรายละเอียดกันได้เลย และเราก็จะแนะนำวิธีการปลูกผมรูปแบบอื่น ๆ ที่ DHI Thailand ด้วยเช่นกัน
วิธีปลูกผมแบบ DHI (Direct Hair Implantation) คืออะไร?
การปลูกผมแบบ DHI คือเทคนิคการปลูกผมถาวรที่พัฒนาและต่อยอดมาจากวิธี FUE (Follicular Unit Extraction) โดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่เรียกว่า Choi Implanter Pen ซึ่งมีขนาดเล็กมาก (ประมาณ <1 มม.) ในการเจาะนำกราฟต์รากผมออกและฝังกลับเข้าไปในขั้นตอนเดียว ทำให้แพทย์สามารถควบคุมทิศทาง มุม และความลึกของการปลูกผมได้อย่างแม่นยำ ขั้นตอนนี้ไม่ต้องผ่าตัดเปิดหนังศีรษะเป็นแถบเหมือนเทคนิค FUT และไม่ต้องเย็บแผล ส่งผลให้แผลมีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ไม่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ และคนไข้ฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าวิธีเก่า จุดเด่นของเทคนิค DHI คือช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของกราฟต์ผมที่ปลูกได้สูงกว่า 90% โดยมีงานวิจัยระบุว่าสูงถึง 97% ขณะที่เทคนิคทั่วไปมีอัตรารอดเฉลี่ยเพียงประมาณ 50% เท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติ 100% เนื่องจากทิศทางและมุมของเส้นผมที่ขึ้นใหม่เป็นไปตามแนวที่ควรจะเป็น เสมือนเส้นผมขึ้นเองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ DHI ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย เจ็บน้อย (ใช้ยาชาเฉพาะที่) ไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ ทำให้ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
จากจุดแข็งเหล่านี้ การปลูกผมด้วยเทคนิค DHI จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปีหลัง ๆ ที่คนไข้ต้องการวิธีปลูกผมที่ได้ผลจริง คุ้มค่า และลดผลกระทบข้างเคียงให้น้อยที่สุด สำหรับในประเทศไทย DHI Thailand เป็นคลินิกเดียวที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้ 100% จาก DHI Global มาทำการรักษาด้วยเทคนิคนี้ ทำให้คนไข้มั่นใจได้ในมาตรฐานระดับสากลของผลการรักษาและความปลอดภัยทุกขั้นตอน
ราคาปลูกผม DHI ที่กรุงเทพฯ ตามข้อมูลจาก DHI Thailand
เรื่อง ค่าใช้จ่ายในการปลูกผม นั้น มักจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ (graft) หรือกอรากผมที่ต้องใช้ปลูก และขนาดพื้นที่บริเวณที่ต้องการปลูกเป็นหลัก ยิ่งพื้นที่ผมบางกว้างและต้องใช้กราฟต์มาก ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย จากข้อมูลบนเว็บไซต์ DHI Thailand พบว่าราคาค่าบริการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ในประเทศไทย (ข้อมูลปี 2025) อยู่ที่ประมาณ
- จำนวนกราฟต์ 1,000-2,000 กราฟต์: ค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000–100,000 บาท
- จำนวนกราฟต์ 2,000-4,000 กราฟต์: ค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000–200,000 บาท
(ราคาอาจปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์และพื้นที่ที่ต้องการปลูกจริงของแต่ละบุคคล รวมถึงโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจที่คลินิกอาจนำเสนอในช่วงเวลานั้น ทั้งนี้ DHI Thailand ย้ำว่าราคาที่เรียกเก็บนั้นมีความยุติธรรมและโปร่งใส เมื่อเทียบกับคุณภาพเทคนิคและทีมแพทย์เฉพาะทางระดับสากลที่มอบให้ โดยค่าใช้จ่ายที่ DHI Thailand ต่ำกว่าการไปปลูกผมในยุโรปหรืออเมริกามาก แต่ให้ผลลัพธ์ในระดับเดียวกันหรือดีกว่าด้วยซ้ำ)
ทางเลือกการรักษาเส้นผมอื่น ๆ ที่ DHI Thailand: PRP และ Regenera Activa
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือผมร่วงในระยะเริ่มต้น หรือต้องการฟื้นฟูเส้นผมโดยไม่ต้องผ่าตัด DHI Thailand มีบริการทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นผมและกระตุ้นการเกิดผมใหม่ เช่น การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) และ การใช้สเต็มเซลล์ผม Regenera Activa
- PRP (Platelet-Rich Plasma): คือการนำโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factors) ที่มีความเข้มข้นสูง มาใช้ในการกระตุ้นโดยฉีดกลับเข้าสู่หนังศีรษะบริเวณที่ผมบาง วิธีนี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมให้สร้างเส้นผมใหม่ที่แข็งแรง ลดอาการผมร่วง และฟื้นฟูสุขภาพของหนังศีรษะได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน การทำ PRP เหมาะกับทั้งชายและหญิงที่ผมบางไม่มากหรือมีอาการผมร่วงไม่รุนแรง และต้องการบำรุงรากผมให้แข็งแรงขึ้นอย่างยั่งยืน
- Regenera Activa: เป็นเทคโนโลยีการฟื้นฟูผมบางด้วย เซลล์จากรากผมของตัวเอง ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก Regenera Activa ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องโกนผม โดยแพทย์จะเก็บตัวอย่างเซลล์รากผมขนาดเล็ก (ไมโครกราฟต์) จากบริเวณท้ายทอยของผู้เข้ารับการรักษา แล้วนำไปสกัดแยกในห้องปฏิบัติการเพื่อให้ได้เซลล์ต้นกำเนิดผมที่มีความเข้มข้น จากนั้นฉีดเซลล์เหล่านี้กลับเข้าสู่บริเวณที่ผมบางหรือผมร่วง เพื่อกระตุ้นให้ผมเกิดใหม่แข็งแรงและหนาขึ้นอีกครั้ง เทคนิคนี้ได้รับการยอมรับว่า ปลอดภัย เห็นผลจริง และไม่ต้องทำบ่อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางระดับน้อยถึงปานกลาง หรือผู้ที่อยากเสริมผลลัพธ์หลังการปลูกผมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ข้อดีของ Regenera Activa คือทำเพียงปีละ 1 ครั้งก็เห็นผลชัดเจน ผมที่ขึ้นใหม่ดูหนาแน่นเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 1–2 ปี (บางรายอยู่ได้นานถึง 5 ปี) ทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำเพราะใช้เซลล์ของตนเอง จึงไม่มีปัญหาเรื่องการแพ้หรือสารแปลกปลอม เทคนิคนี้มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดปลูกผม กล่าวคือแม้ราคาต่อครั้งจะใกล้เคียงกับการปลูกผมหนึ่งครั้ง แต่เพราะขั้นตอนสะดวกและใช้เวลาน้อย จึงมีหลายคนเลือกใช้ Regenera Activa เป็นทางเลือกแทนการปลูกผมแบบผ่าตัด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาปลูกผม
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า จำนวนกราฟต์ที่ต้องปลูก และ ขนาดพื้นที่ศีรษะที่มีปัญหา เป็นปัจจัยหลักที่กำหนดค่าใช้จ่ายในการปลูกผมแต่ละครั้ง ยิ่งต้องใช้กราฟต์จำนวนมาก ราคาก็จะยิ่งสูงตามไปด้วยโดยปริยาย นอกจากนี้ เทคนิคการปลูกผมที่เลือกใช้ ก็มีผลต่อราคาเช่นกัน เทคนิคที่มีความละเอียดและอุปกรณ์เฉพาะทางสูงอย่าง DHI หรือ FUE มักมีค่าใช้จ่ายต่อกราฟต์สูงกว่าวิธีดั้งเดิมอย่าง FUT แต่ข้อได้เปรียบคือให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอัตราการรอดของผมที่ปลูกสูงกว่า ตัวอย่างเช่น การปลูกผม DHI แม้มีต้นทุนต่อกราฟต์สูงกว่า แต่ก็ให้อัตราการรอดของกราฟต์สูงถึง ~97% และผมที่ปลูกขึ้นใหม่ดูแน่นเป็นธรรมชาติ คุ้มค่ากับการลงทุนระยะยาวของคนไข้ ปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคารวม ได้แก่ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ (คลินิกที่มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและมาตรฐานระดับสากลอาจคิดราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่แลกกับความมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย), เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้ (เครื่องมือที่ทันสมัยและปลอดภัยอาจเพิ่มต้นทุน) และ การดูแลเสริมหลังปลูกผม เช่น ทรีตเมนต์บำรุงหรือยาที่ต้องใช้ต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาประกอบกันเมื่อเปรียบเทียบราคาคลินิกปลูกผมต่าง ๆ
เริ่มต้นการปลูกผม จากการประเมินและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าการ ปลูกผม จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุน แต่สำหรับหลาย ๆ คนแล้วผลลัพธ์ที่ได้คือความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน การจะทราบแน่ชัดว่า ปลูกผมในกรุงเทพฯ ราคา เท่าไหร่สำหรับกรณีของคุณ แนะนำให้เริ่มต้นจากการประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะกับผู้เชี่ยวชาญก่อน แต่ละคนมีระดับความบางของผมและจำนวนกราฟต์ที่ต้องการแตกต่างกัน ทีมแพทย์ของ DHI Thailand จะทำการวิเคราะห์และออกแบบแนวผมที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลอย่างละเอียด และประเมินจำนวนกราฟต์ที่ต้องใช้รวมถึงค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ให้คุณได้รับทราบล่วงหน้า หากไม่สะดวกเดินทางมาที่คลินิก คุณสามารถส่งภาพถ่ายศีรษะจากหลายมุมหรือวิดีโอคอลปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินเบื้องต้นได้เช่นกัน เมื่อทราบแผนการรักษาและงบประมาณคร่าว ๆ แล้ว จึงค่อยตัดสินใจว่าจะดำเนินการปลูกผมหรือไม่
ท้ายที่สุด การเลือกปลูกผมนั้นควรคำนึงถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือเป็นหลัก ราคาเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยประกอบการตัดสินใจเท่านั้น การปลูกผมเป็นการลงทุนระยะยาวในภาพลักษณ์ของตัวเอง การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีทีมแพทย์เฉพาะทาง และใช้เทคนิคที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพอย่าง DHI จะช่วยให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป DHI Thailand มีบริการปรึกษาฟรีและมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การประเมินไปจนถึงการติดตามผลหลังปลูกผม หากคุณกำลังชั่งใจเรื่องการปลูกผมในกรุงเทพฯ การเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหาและรับข้อมูลอย่างครบถ้วนคือก้าวแรกที่สำคัญที่สุด สู่การกลับมามีเส้นผมที่แข็งแรงและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง